เรื่องเกี่ยวกับผู้ชายญี่ปุ่น ที่ผู้หญิงรู้แล้วจะเข้าใจแฟนญี่ปุ่นมากขึ้น
การคบกันของคน 2 เชื้อชาติ นอกจากเรื่องความแตกต่างกัน
ระหว่างเพศชายและเพศหญิง ยังมีความแตกต่างทางด้านวัฒนธรรม
และสังคมที่มีรายละเอียดเยอะมาก หลายๆครั้งที่ทำให้ไม่เข้าใจหนุ่มประเทศนี้
ทั้งๆที่พยายามจะเข้าใจ ไม่ใช่แค่เข้าใจยากธรรมดานะ แต่มันย้ากกก…..ยากกกกกก
เริ่มคบกันมีปัญหาแบบนี้ คบกันไปสักพักปัญหาเป็นอีกแบบ
แต่งงานกันไปแล้วสารพัดปัญหาอื่นที่ตามมาเป็นขบวน
โดยเฉพาะรักริมฝั่งโขง เห้ย…ไม่ใช่!!! ต้องเรียกว่า "รักกับหนุ่มแดนอาทิตย์อุทัย"
อย่างว่าชีวิตคู่ไม่มีอะไรเรียบง่าย เหมือนดั่งโบราณที่ว่า
"คนในอยากออก คนนอกอยากเข้า"
แหม…เรื่องแบบนี้ต้องเจอกับตัวเองสิถึงจะรู้ ชิมิ(-^.^-) (-^.^-)
วันนี้ต้ามาเขียนบอกเล่าเรื่องราวประสบการณ์
"ทำอย่างไรให้มีความสุขกับชีวิตรักข้ามเชื้อชาติ" เพื่อให้ชีวิตคู่รักเข้าใจ
และรักกันแน่นเเฟ้นขึ้น ทั้งนี้โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านด้วยนะคะ (^___^)
มองข้ามจุดเล็กจุดน้อย
ความสัมพันธ์รักทางไกล ว่าไกลกันมากพอแล้วแต่อย่าให้รู้สึกต้องไกลกันอีกเลย
เลยต้องมีการวางกฎเกณฑ์เพื่อให้ความสัมพันธ์ราบรื่นในการคบหากันระหว่างคุณและเขา
เช่น ต้องไลน์หาหลังเลิกงาน ต้องโทรคุยก่อนนอน ต้องบลาๆๆๆๆ
แต่ก็ไม่มีใครสามารถทำได้ตลอดเวลา บางครั้งอาจอาจเหนื่อยล้าจากการทำงาน
เจอสภาวะกดดันจากสังคมหรือสิ่งรอบข้างใกล้ตัว ทำให้ไม่สามารถ
รักษามาตรฐานกฎเกณฑ์ที่ตั้งขึ้นไว้ได้ตลอดเวลา การมองจุดเล็กๆน้อยๆ
ข้ามข้อบกพร่องไปบ้าง มองแฟนในแง่ดีบ้าง มีความเข้าอกเข้าใจกัน
(แต่ไม่ใช่ว่าให้หลับหูหลับตาเชื่อไปทุกอย่างนะจ้ะที่รัก)
ให้อิสระแก่กันบ้าง อ่ะ…แต่ยูก็ต้องรู้ขอบเขตนะคะ อะไรประมาณนี้
มันจะให้ความรู้สึกว่าไม่รู้สึกอึดอัดที่จะคบหาดูใจกันนั่นเอง
ผู้ชายจะมีความสุขเมื่อได้รับความสุขพื้นฐาน
เอ….แล้วความสุขพื้นฐานที่ว่านี่คืออะไรหว่า…ที่ผู้ชายอยากได้??
ง่ายๆก็คือ อาหาร ความบันเทิง และ เรื่อง 18+ นั่นเอง
ตรงนี้ต้าสังเกตจากแฟนญี่ปุ่นของต้าเอง วันหยุดที่ได้นอนพักผ่อนเต็มที่
ตื่นขึ้นมา อาหารก็พร้อมอยู่บนโต๊ะ หลังจากทานข้าวอิ่ม
ถึงเวลาสร้างความบันเทิงให้ตัวเอง ไม่ว่าจะพักผ่อน นอนหลับ
ดูหนัง ฟังเพลงหรือเล่นเกมก็ว่ากันไป
เขามักจะบอกว่ามีความสุขที่ได้พักผ่อนอยู่บ้านพร้อมเราเสมอ
….ใช่ซี้ (เสียงสูง) มีคนคอยดูแลทุกอย่างตั้งแต่ตื่นยันเข้านอน (>///< )
นอกจากแฟนต้า ยังมีครอบครัวเพื่อนร่วมงานคนญี่ปุ่นที่อยู่ตึกเดียวกัน
ได้มีโอกาสพูดคุยกันบ้าง ตามแต่โอกาส บรรดาพ่อบ้านญี่ปุ่น
นี่ชมภรรยาเปาะ ว่าดูแลสามีไม่ขาดตกบกพร่อง
กลับมาบ้านภรรยาทำอาหารเตรียมไว้ พร้อมเบียร์เย็นๆ
บ้านสะอาดสะอ้าน "โชคดีที่ได้เมียไม่ขี้บ่น ฮ่าๆๆๆ"
แหม…ถ้าไม่ทำตัวให้น่าบ่นก็ไม่มีแม่บ้านคนไหนเขาอยากบ่นหรอกค่ะ! เฮอะๆ
บางครอบครัวมีลูกเล็กๆ หลังจากคุณพ่อกลับมาจากที่ทำงาน
มักเล่นกับลูกๆ แค่เห็นหน้าลูกจากที่เหนื่อยมาจากข้างนอก ก็หายเป็นปลิดทิ้ง
คุณพ่อบ้านญี่ปุ่นมักบอกเสมอว่า "ความสุขคือเวลาที่อยู่บ้าน"
ส่วนเรื่อง 18+ ถ้าหากว่าสิ่งที่เขาต้องการและคุณสามารถให้ได้
โดยที่ไม่รู้สึกอึดอัดทั้ง 2 ฝ่าย เพียงเท่านี้ก็ทำให้ชีวิตคู่มีความสุขแล้วค่ะ
(ยกเว้นกรณีที่ผู้ชายไม่รู้จักพอ) แต่ประเด็นนนี้ใครอยู่ในวัยเรียนข้ามก็ข้ามไปก่อนเนอะ (^___^)
ผู้ชายมีอารมณ์แปรปรวนได้เหมือนกันและต้องการพื้นที่ส่วนตัว
จริงๆ ผู้ชายญี่ปุ่นก็มีอารมณ์แปรปรวนได้เหมือนกันกับผู้หญิง
เพียงแต่จะเก็บอารมณ์ได้ดีกว่าผู้หญิงเท่านั้นเอง
แต่บางครั้งก็อาจแสดงอาการรุนแรง หรือแสดงพฤติกรรมแย่ๆมากกว่าผู้หญิงด้วยซ้ำ
ถ้าหากไม่เข้าใจตรงจุดนี้อาจทำให้ทะเลาะกันได้ง่ายๆ
สังเกตว่าถ้าเขาไม่พร้อมคุยหรือสนทนากับเรา ลองปล่อยให้เขาอยู่กับตัวเอง
เพราะคนทุกคนมีปัญหา มีความทุกข์เหมือนกันหมด
จะต่างกันที่ปัญหา และความทุกข์ของแต่ละคนไม่เหมือนกันนั่นเอง
เราต่างก็อยากมีพื้นที่ส่วนตัวเล็กๆ บางคนอาจอยากอยู่เงียบๆ นอนเฉยๆ
อ่านหนังสือ ทำอะไรคนเดียว เช่นเดียวกับคุณพ่อและคุณแม่แฟนญี่ปุ่นของต้า
ตั้งแต่แต่งงานกันใหม่ๆจนปัจจุบัน ก็ยังต้องมีพื้นที่ส่วนตัวให้กัน
โดยคุณพ่อจะมีห้องทำงานและห้องพักผ่อนส่วนตัว
ถ้าเข้าห้องนี้หมายความว่าถ้าไม่มีเรื่องด่วนหรือธุระสำคัญ
อย่าไปรบกวน เช่นเดียวกับคุณแม่จะมีห้องส่วนตัวไว้พักผ่อน
ดูละคร ดูแลความสวยความงามตามประสาผู้หญิง
ต่างคนต่างให้พื้นที่ส่วนตัว และเคารพซึ่งกันและกัน
เมื่อไหร่ที่ต้องทำหน้าที่สามีภรรยา หน้าที่พ่อและแม่
ทั้งสองก็จะกลับมาจากพื้นที่ส่วนตัว และทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด
คนเราไม่ว่าจะสนิทกันแค่ไหน คบกันมานานกันเท่าไหร่
เราต่างก็ต้องการพื้นที่ส่วนตัวให้ตัวเองบ้างเป็นครั้งคราว (^__^)
หาคำชมในแบบที่ผู้ชายเขาชอบ
ผู้ชายญี่ปุ่นเองชอบที่ฟังคำชมไม่ต่างจากผู้หญิงอย่างเราๆ
เพียงแต่ว่าคำชมนั้นไม่ดูเวอร์วังเกินจริงหรือดูประดิษฐ์มากมาย
แค่พูดให้เขารู้สึกดีที่ทำไมเขาถึงพิเศษกว่าผู้ชายคนอื่นทั่วไป
และเลือกเขามาเป็นแฟน ต้าเองก็ชอบชมแฟนญี่ปุ่นตัวเองบ่อยๆ
เช่น เวลาที่เขาไปตัดผม (ปกติไม่ชอบตัด) ต้าจะชมว่า
"ตัวเองเนี้ยหล่อเหมือน เดวิค แบคแฮ่ม สมัยหนุ่มๆเลยน้าาาา"
อิแฟนสวนกลับทันที "อย่ามาสตรอเบอรี่"
อ้าววว…รู้ทัน ฮ่าๆๆๆ เอาเป็นว่าหล่อ ดูดี สไตล์เขานั่นแหละ
พุงอาจจะยื่นนิดๆ ตีนกาอาจขึ้นมาหน่อย เคราเยอะเหมือนโจรมุมตึก
แต่ก็ร้ากกก…เสมอ คริ คริ (-^.^-)
แฟนยืนทำหน้างง คงสงสัย….. "ตกลงนี่ชมหรือหลอกด่า" ฮ่าๆๆๆ
ถึงจะมีความแตกต่างกันมากเท่าไหร่ ถ้าเราและเขาพยายามที่จะปรับตัวเข้าหากัน
มายังจุดบาลานซ์ที่รู้สึกสบายๆ ไม่อึดอัดทั้งสองฝ่าย ความสัมพันธ์ก็จะราบรื่นและแน่นแฟ้นมากขึ้น
"บ่มีอีหยังมาพังทลาย ความฮักเฮาสองลงได้ แม้ดินสลายยังมั่นคงคือจั่งแรกเริ่ม"
คริ คริ (^0^) ทั้งนี้ต้องพิจารณาเป็นรายบุคคลไปนะคะ
ไม่ใช่ผู้ชายญี่ปุ่นทุกคนที่ต้ากล่าวมาจะเป็นแบบนี้ แนวนี้เป๊ะๆ
ต้าเพียงหยิบยกประสบการณ์ของตัวต้าเอง และคนรอบข้างเอามาเล่าสู่กันฟังเท่านั้นเอง...
อย่าเอาตัวเองไปเปรียบเทียบกับคู่ของคนอื่น เพราะประสบการณ์ชีวิตคนเราไม่เหมือนกัน
เจอเรื่องราวไม่เหมือนกัน แต่เราเลือกที่จะสุขหรือทุกข์ได้ที่ตัวเราเอง
หากเจอคนอื่นเจอคู่ที่ดี ก็จงยินดีกับเขาแต่อย่าแสดงออกด้วยการอิจฉาและหาทางทำร้าย
หรือพูดให้ร้ายคนอื่น เพราะสุดท้ายสิ่งเหล่านั้นก็จะย้ายกลับมาทำร้ายตัวเราเอง
"โลกใบนี้เต็มไปด้วยความมหัศจรรย์ ถ้าไม่ออกเดินทางก็ไม่มีวันค้นพบ"
ถ้ามีโอกาสต้าไม่ลืมจะแวะมาอัปเดตแน่นอนค่ะ (^___^)(^___^)
ท้ายบล็อกต้ามีคลิปจากคุณทากะ ตามติดชีวิต "มนุษย์เงินเดือนญี่ปุ่น"
แต่ละวันต้องใช้ชีวิตยังไง ต้องเจออะไรบ้าง ตามไปดูในคลิปข้างล่างกันได้เลย
สำหรับวันนี้ บั้ยยย….บายยยยย….(^0^) (^0^)
ติดตามรับข่าวสารเกี่ยวกับญี่ปุ่น
YouTube: www.youtube.com/ilovejapanth/
Facebook: www.facebook.com/ILoveJapan.th/
Twitter: https://twitter.com/ILOVEJAPANTH
Instagram: www.instagram.com/ilovejapanth/
TikTok: https://www.tiktok.com/@ilovejapanth
ทดลองเรียนภาษาญี่ปุ่นออนไลน์ฟรี 3 วันได้ที่ www.ilovejapanschool.com
I LOVE JAPAN GROUP CO.,LTD
Park Ploenchit
61/7 Sukhumvit 1 Road Khongtoey Nua
Wattana Bangkok, Thailand, 10110
info@ilovejapan.co.th