บล็อกนี้ขอพาทุกท่านไปรู้จักกับเมนูอาหารที่น่าสนใจและหารับประทานได้ไม่ยากนัก อีกทั้งยังเหมาะสำหรับทุกคนในครอบครัว ที่สำคัญอาหารส่วนใหญ่ก็อยู่ในโตเกียวนี่แหละ รับรองว่าเดินทางและหาร้านอาหารได้สะดวกแน่นอน
จะว่าไปแล้วโตเกียว ถือเป็นศูนย์รวมอาหารญี่ปุ่นที่มีความหลากหลายมากที่สุด อย่างไรก็ตาม อาหารของแถบคันโตแท้ ๆ ที่เป็นเอกลักษณ์แท้ ๆ แบบสามารถหารับประทานได้เฉพาะแถบนี้ก็มีไม่น้อยเหมือนกัน
สำหรับข้อมูลที่นำมาเสนอให้ทราบนั้น อาจจะไม่ได้ลงรายละเอียดของความเป็นมาของอาหารมากมาย แต่จะเน้นให้รู้จักหน้าตาและชื่อของอาหารไว้ก็พอ เผื่อว่าเวลาไปเที่ยวจะได้รู้จักอาหารเหล่านี้กัน เอาล่ะ มาเริ่มกันเลย!
จริง ๆ แล้วซูชิที่พวกเรารับประทานกันทุกวันนี้นั้นเกิดขึ้นตั้งแต่สมัยเอโดะ (ราว 400 ปีก่อน) และวิวัฒนาการมาเรื่อย ๆ ส่วนปลาที่จับได้ในแถบนี้ก็มักจะจับมาจากบริเวณอ่าวโตเกียว สำหรับร้านซูชิ สามารถหารับประทานได้ทั่วไปในโตเกียว (รวมถึงทั่วประเทศญี่ปุ่นด้วย) แต่หากเป็นมือใหม่ ก็ขอแนะนำให้เดินทางไปลองชิมกันที่ตลาดปลา Tsukiji ซึ่งปัจจุบันแม้จะมีข่าวการย้ายตลาดไปแล้ว แต่ร้านซูชิหลายร้านก็ยังคงปักหลักเปิดกิจการที่โซนตลาดด้านนอกอยู่ ส่วนท่านใดที่ไม่อยากเดินทางไปถึงตลาดปลา จะหาร้านซูชิในย่านกินซ่า ชิบูย่า ชินจุกุ หรืออาซากุสะก็ล้วนแต่มีร้านอร่อยน่าลองทั้งสิ้น
2.Monjayaki - พิซซ่าญี่ปุ่นสไตล์โตเกียว
ทุกคนรู้จัก Okonomiyaki กันใช่ไหม แต่พอเรียก Monjayaki ปุ๊บ หลายท่านจะไม่คุ้นหูทันที เอาเป็นว่าหากเราเรียกอาหารชนิดนี้แบบง่าย ๆ นั่นก็คือ "Okonomiyaki แบบเปียก" นั่นเอง คำว่าแบบเปียกก็คือ มันจะมาบนเตาขนาดใหญ่แล้วพนักงานจะเทแป้งที่มีลักษณะเหลวพร้อมกับส่วนประกอบที่สำคัญลงไป ซึ่งส่วนประกอบที่ว่านี้นอกจากแป้งและผักเป็นหลักแล้ว เราสามารถเพิ่มเนื้อหมู วัว ไก่ หรือ seafood รวมเข้าไป ที่สำคัญหลายร้านยังเปิดโอกาสให้ลูกค้าได้ลองทำ Monjayaki ด้วยตัวเองอีกด้วย สำหรับในโตเกียวนั้น ขอแนะนำให้ไปลองแถวย่าน Tsukishima ซึ่งย่านนี้ได้ชื่อว่าเป็น Monja Street ของโตเกียวเลยทีเดียว
เทมปุระนับเป็นเมนูพื้นฐานที่มีความเป็นมาคล้ายกับขนมทองหยิบทองหยอดของไทย เพราะเมนูชนิดนี้ทางประเทศญี่ปุ่นก็ได้รับอิทธิพลมาจากชาวโปรตุเกสในช่วงที่เข้ามาเผยแพร่คริสตศาสนาในเมืองนางาซากิ สำหรับเมนูนี้ วัตถุดิบของทางโตเกียวจะเน้นไปที่กุ้งหรืออาหารทะเลชุบแป้งทอดและผัก โดยมีลักษณะแป้งที่เน้นความกรอบเป็นพิเศษ แต่ไม่อมน้ำมัน ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ที่ภูมิภาคอื่นยากจะเลียนแบบ
จริง ๆ เมนูชนิดนี้เป็นอาหารที่ซูโม่ใช้รับประทานเพื่อเพิ่มความแข็งแรงให้กับร่างกาย (ลองนึกดูว่าซูโม่ตัวใหญ่ ๆ มักจะทานอะไร นี่แหละ อาหารของพวกเขา) แต่ปัจจุบันบุคคลทั่วไปก็สามารถรับประทานได้เช่นกัน ส่วนประกอบที่สำคัญ คือ เต้าหู้และผัก ส่วนเนื้อสัตว์จะมีทั้งเนื้อวัว หมู ไก่ หรือจะใส่อาหารทะเลอย่างเช่น ปลา ก็เป็นที่นิยมเช่นกัน เมนูนี้หาร้านอาหารได้ไม่ยาก ส่วนตัวขอแนะนำให้ลองในย่าน Ryogoku ซึ่งเป็นย่านที่มีสังเวียนซูโม่ จะมีขายอยู่หลายร้าน
นับเป็นเมนูยอดฮิตของชาวไทยในปัจจุบัน เพราะข้าวหน้าปลาไหลน้ำจืดย่างสมัยนี้หากินได้ง่ายกว่าเดิมมาก แถมแต่ละร้านมักจะมีซอสปรุงรสที่เป็นสูตรลับเฉพาะ ดังนั้น รสชาติปลาไหลของแต่ละร้านจึงมีความแตกต่างกันไป อย่างไรก็ตาม หากเป็นมือใหม่และอยากลอง ก็ขอแนะนำให้ลองเข้าร้าน Unatoto ซึ่งเป็นร้านขายปลาไหลย่างโดยเฉพาะ มีสาขาอยู่มากกว่า 10 สาขาในโตเกียว หรือจะลองทานที่ร้าน Kawatoyo Honten ซึ่งเป็นร้านเก่าแก่ประจำเมืองนาริตะก่อนขึ้นเครื่องบินกลับบ้านก็เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจ
อาจฟังดูแปลก ๆ แต่จริง ๆ แล้วที่ญี่ปุ่นมี Chinatown (ย่านเยาวราชแบบบ้านเรา) ถึง 3 แห่งทั่วประเทศ นั่นคือ Yokohama, Kobe, Nagasaki ซึ่งแปลว่าอาหารจีนในญี่ปุ่นก็เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าลองทานเช่นกัน เพราะอาหารจีนของที่นี่มักมีกลิ่นอายและรสชาติที่แฝงความเป็นญี่ปุ่นอยู่ไม่น้อยเลยทีเดียว ส่วนเมนูที่น่าสนใจ คือ ชูมัย (ขนมจีบแบบญี่ปุ่น) ซาลาเปาไส้ต่าง ๆ บะหมี่ผัดต่างๆ เต้าหู้มาโป(เต้าหู้แบบเผ็ด) และติ่มซำประเภทต่าง ๆ ทั้งนี้ท่านผู้อ่านที่มาเที่ยวในโตเกียวก็สามารถเดินทางมาลิ้มลองกันได้ที่เมือง Yokohama เพราะสะดวกในการเดินทางและมีหลายร้านให้เลือกจริง ๆ
ข้าวหน้าปลา Shirasu หรือปลาตัวเล็ก ชาวญี่ปุ่นนิยมรับประทานในรูปแบบปลาดิบ ต้ม หรือชุบแป้ง ท่านสามารถหาทานเมนูนี้ได้ง่ายที่เมืองคามาคุระและเกาะเอโนชิมะซึ่งเป็นบริเวณที่มีการจับปลาชนิดดังกล่าวชุกชุมมากเป็นพิเศษ
เมนูนี้อาจจะเหมาะสำหรับ "สายคลีน" เพราะเมนูนี้ไม่มีเนื้อสัตว์เข้ามาเกี่ยวข้องเลยแม้แต่น้อย แต่อ่านแล้วอย่าเพิ่งวิตกกังวลเกินไปเพราะนักท่องเที่ยวทั่วไปสามารถก็ลิ้มลองเป็นประสบการณ์ได้ สำหรับร้านอาหารที่ขายเมนูสุดคลีนนี้ ท่านสามารถพบเจอร้านอาหารประเภทนี้ได้มากในเมืองคามาคุระ ทั้งนี้ ขอย้ำอีกครั้งว่า เมนูนี้ไม่มีเนื้อสัตว์ แต่เน้นหนักไปที่ผัก เต้าหู้ ข้าว และผลไม้ นอกจากร้านอาหารในเมืองแล้ว หากท่านใดได้มีโอกาสได้เข้าพักในวัดญี่ปุ่น ทางวัดก็มักจะจัดอาหารแบบนี้ให้กับเราในตอนเช้าหรือตอนเย็นเช่นกัน หากมีโอกาสอยากเป็นสายคลีนสักมื้อก็ลองดูกันนะ ^^
แกงกะหรี่ของญี่ปุ่นจะเป็นคนละสไตล์กับแกงกะหรี่แบบอินเดียที่บางท่านอาจเคยได้ลองชิมเวลาไปเที่ยวอินเดียหรือในเมืองไทย ที่มาของแกงกะหรี่ในญี่ปุ่น เกิดขึ้นเมื่อราว ๆ 150 ปีก่อนนั้น ชาวญี่ปุ่นได้รู้จักแกงกะหรี่ผ่านทางชาวอังกฤษที่เข้ามาค้าขายในญี่ปุ่น โดยชาวอังกฤษเหล่านั้นนำแกงกะหรี่จากอินเดียมารับประทานด้วย ชาวญี่ปุ่นสมัยนั้นพอได้ชิมแล้วก็เลยนำสูตรดั้งเดิมของอินเดียแท้ๆมาปรับปรุงให้ถูกปากชาวญี่ปุ่นตั้งแต่ตอนนั้นเป็นต้นมา โดยหนึ่งในเมืองท่าที่เปิดรับฝรั่งผิวขาวสมัยที่ญี่ปุ่นเริ่มค้าขายก็คือ Yokohama ส่งผลให้ในปัจจุบันข้าวราดแกงกะหรี่แบบญี่ปุ่นเป็นอีกหนึ่งเมนูที่หารับประทานได้ง่าย มีรสชาติอร่อย ที่สำคัญคือราคาไม่แพง (บางเจ้ามีขยายสาขามาเปิดที่เมืองไทยด้วยซ้ำ)
และทั้งหมดนี้ก็คือ 9 เมนูเด็ดน่าลองหากท่านใดได้มาเที่ยวในโซนโตเกียว จริง ๆ แล้วยังมีอาหารชนิดอื่น ๆ ที่น่าสนใจอีกเยอะแยะเลย แต่ในบล็อกนี้จะขอนำมาเสนอเฉพาะที่ได้รับความนิยมจากชาวต่างชาติและชาวญี่ปุ่นเท่านั้น
.
ขอบคุณรูปภาพประกอบจาก:
foodsaketokyo, japanwalkersea, livejapan, jpvisitor, media-magicaltrip, gurunavi, ana-cooljapan, jpinfo และ visit-minato-city
ติดตามรับข่าวสารเกี่ยวกับญี่ปุ่น
YouTube: www.youtube.com/ilovejapanth/
Facebook: www.facebook.com/ILoveJapan.th/
Twitter: https://twitter.com/ILOVEJAPANTH
Instagram: www.instagram.com/ilovejapanth/
TikTok: https://www.tiktok.com/@ilovejapanth
ทดลองเรียนภาษาญี่ปุ่นออนไลน์ฟรี 3 วันได้ที่ www.ilovejapanschool.com
I LOVE JAPAN GROUP CO.,LTD
Park Ploenchit
61/7 Sukhumvit 1 Road Khongtoey Nua
Wattana Bangkok, Thailand, 10110
info@ilovejapan.co.th