สวัสดีครับ กลับมาเจอกันกับ Ken Pichakun อีกแล้วกับบทความสำหรับคนรักวัฒนธรรมการ์ตูนญี่ปุ่น ถ้าพูดถึงเรื่องการ์ตูนแล้วละก็ สิ่งหนึ่งที่คนรักการ์ตูนญี่ปุ่นหลาย ๆ ท่านใฝ่ฝันนอกจากไปเยี่ยมชมอากิฮาบาระ ก็อยากจะไป Comiket ซึ่งเป็นงานการ์ตูนระดับใหญ่ที่สุดในประเทศญี่ปุ่นซึ่งติด Top 25 อีเวนต์งานที่ใหญ่ที่สุดในโลกอีกด้วย ว่าแต่งาน Comiket เป็นอย่างไรน่ะเหรอครับ เราไปทำความเข้าใจกับงานนี้กันดีกว่า
Comic Market หรือที่เรียกย่อๆ ว่า Comiket เป็นงานแสดงสินค้าทุกอย่างเกี่ยวกับการ์ตูนญี่ปุ่น ซึ่งเป็นการร่วมมือกันทั้งค่ายการ์ตูนเจ้าของลิขสิทธิ์อย่างเป็นทางการและเหล่ากลุ่มนักเขียนการ์ตูนอิสระที่ออกมาทำผลงานแฮนด์เมดหรือโดจินชิ (Doujinshi ซึ่งจะกล่าวถึงในโอกาสต่อไป) งาน Comiket มักจัดที่ห้องประชุม Tokyo Big Sight ทุกปี ในแต่ละปีมีผู้เข้าชมงานมากกว่า 560,000 กว่าคนจากทั่วประเทศและทั่วโลกที่หลงไหลในมนตร์เสน่ห์ของการ์ตูนญี่ปุ่น และมีกลุ่มผู้จำหน่ายแสดงสินค้าภายในงานมากถึง 35,000 กว่ากลุ่มเลยทีเดียว (เดินช็อปกันสนุกจนขาขวิดไปเลย ฮา)
ใหญ่ไม่ใหญ่ ลองดูคลิปเที่ยวงาน Comiket ปี 2014 ดูเลยครับ
Comiket เกิดขึ้นจากการริเริ่มก่อตั้งโดย Yoshihiro Yonezawa นักวิจารณ์การ์ตูนชื่อดัง ซึ่งในปี 1970 นิตยสารการ์ตูนญี่ปุ่นเป็นที่นิยมอย่างแพร่หลาย วงการการ์ตูนญี่ปุ่นเริ่มทำงานเป็นอุตสาหกรรมมากขึ้น ผลงานเรื่องไหนที่ได้ตีพิมพ์ลงนิตยสารก็จะเป็นที่รู้จักและโด่งดังในเวลาต่อมา แต่ปัญหาคือ ผลงานอีกหลายเรื่องที่ไม่ผ่านพิจารณาให้ตีพิมพ์ (ด้วยเหตุผลด้านการตลาด) ก็ไม่มีคนอ่านและไม่มีใครรู้จัก ต่อให้พิมพ์และฝากร้านค้าขายก็อาจจะมีลูกค้าน้อยคนที่ซื้อไปอ่าน เพราะกลุ่มผู้อ่านที่ชอบอ่านผลงานนอกกระแสก็กระจัดกระจายอยู่ตามพื้นที่จังหวัดต่างๆ ผลงานเหล่านั้นจึงกระจายได้ไม่ทั่วถึง Yoshihiro จึงเกิดความคิดขึ้นมาว่า ถ้าอย่างนั้นก็เชิญกลุ่มนักเขียนการ์ตูนอิสระหลาย ๆ กลุ่มมาร่วมกันจัดงานขายการ์ตูน และประชาสัมพันธ์ให้เป็นที่รู้จักกันเถอะ รับรองว่าต้องมีคนสนใจอยากเข้ามาซื้อ และอยากชมผลงานของพวกเขาแน่นอน!
Comiket ครั้งแรกเกิดขึ้นในวันที่ 21 ธันวาคม 1975 มีกลุ่มนักเขียนการ์ตูนมาร่วมแสดงสินค้าถึง 32 กลุ่ม และผู้เข้าชมงานประมาณ 600 คน ซึ่งถือว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างยิ่ง จึงเริ่มจัดงานนี้เรื่อยมา จนมีการจัดตั้งเป็นองค์กรหนึ่ง มีการจัดระเบียบข้อบังคับการเข้าชมงานอย่างเป็นระบบ และมีผู้เข้าชมงานมากขึ้น เป็นหลักพัน หลักหมื่น จนมาถึงหลักแสน และมีแนวโน้มว่าจำนวนผู้ร่วมจัดงานและผู้เข้าชมจะมากขึ้นทุกๆปี จนถึงทุกวันนี้ (วันที่เผยแพร่บทความนี้) ได้จัดมาแล้วเป็นครั้งที่ 90 เมื่อวันที่ 12-14 สิงหาคมที่ผ่านมา
ปัจจุบัน Comiket มักจัดขึ้นปีละสองครั้งคือเดือนสิงหาคมในชื่อ Summer Comiket กับเดือนธันวาคมในชื่อ Winter Comiket ทั้งสองงานจัดที่ Tokyo Big Sight และเปิดให้เข้าชมถึง 3 วัน ตั้งแต่ 10.00 น. – 22.00 น. ความแตกต่างก็คืองาน Summer Comiket จะจัดช่วงฤดูร้อน ใกล้ๆวันที่ 15 สิงหาคม ส่วนงาน Winter Comiket จะจัดช่วงฤดูหนาวในช่วงวันที่ 28-31 ธันวาคม
การเดินทางไป Tokyo Big Sight นั้นง่ายดายมาก เพราะสถานที่อยู่ที่โอไดบะ ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากสถานที่ไปดูกันดั้มยักษ์ เพียงแค่คุณผู้อ่านนั่งรถไฟสาย Yurikamome มาลงที่สถานี Kokusai-Tenjijo-Seimon หรือนั่งรถไฟ JR สาย Rinkai มาที่สถานี Kokusai-Tenjijo ก็ถึงเช่นกัน
คำแนะนำสำหรับผู้ที่สนใจเข้าชมงาน Comiket เพื่อให้ช็อปปิ้งสบายๆ
- ควรมาต่อแถวล่วงหน้าอย่างน้อย 3-4 ชั่วโมง เพราะไม่อย่างนั้นคุณผู้อ่านอาจจะต้องรอต่อแถวยาวเฟื้อย และต้องรอเป็นชั่วโมงๆ กว่าจะได้เข้า
- ก่อนมาควรเช็กสภาพอากาศก่อนว่าเป็นยังไง ถ้ามาช่วงหน้าร้อนก็ควรใส่เสื้อผ้าบางๆสบายๆหน่อย (หน้าร้อนที่ญี่ปุ่นนี่ร้อนมากครับ) แต่ถ้ามาช่วงหน้าหนาวก็ควรเตรียมเสื้อกันหนาวมาให้ดีๆ เดี๋ยวจะไม่สบาย
- ควรกินอาหารเช้ามาให้อิ่ม และเตรียมยาดมยาหม่องน้ำดื่มให้พร้อม เพราะคุณผู้อ่านมีโอกาสได้เดินจนเพลียแน่ๆ (ส่วนอาหารกลางวันไม่ต้องห่วงครับ เขามีโซนขายอาหารด้วย) สำหรับใครที่มีโรคประจำตัวก็อย่าลืมนำยาไปด้วยนะครับ
- เตรียมเงินสำหรับช็อปปิ้งให้พร้อม แนะนำให้แลกเงินเป็นแบงค์ 1,000 เยนกับเหรียญ 500 เยนไว้เยอะๆ เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่คนขาย พวกเขาจะได้ไม่ต้องเสียเวลาทอนเงิน (สินค้าที่ขายในงานส่วนมากราคาต่ำสุดอยู่ที่ 500 เยน)
- อย่าวิ่ง อย่าแซงคิว เพราะคนญี่ปุ่นถือเรื่องนี้มาก
- ถ้าจะลองอ่านหนังสือก็ควรขออนุญาตคนขายก่อนอ่าน ด้วยคำว่า "Yomisasete Kudasai" (โย-มิ-ซา-เซะ-เต้ะ-คุ-ดา-ไซ) และถ้าจะถามราคา ควรถามว่า "Ikura Desuka" (อิ-คุ-ระ-เดส-ก๊ะ) เพราะคนญี่ปุ่นจะรู้สึกสบายใจถ้าคนต่างชาติพอจะคุยด้วยภาษาของเขาได้
- เนื่องจากภายในงานมีผู้ร่วมงาน 30,000 กว่าบูธ การดูทุกบูธภายในวันเดียวจึงไม่น่าจะเป็นไปได้ ควรหยิบ Catalog ที่แจกหน้างานมาอ่านก่อน จะได้รู้ว่าถ้าจะไปหาซื้อการ์ตูนแนวที่ชอบจะต้องไปโซนไหน บริเวณใดในงาน และถ้ามีเวลาเหลือเฟือ ก็ค่อยมาดูโซนอื่นในวันต่อไปก็ได้
- ไม่แนะนำให้พาเด็กอายุต่ำกว่า 10 ขวบมาที่งาน เพราะมีโอกาสพลัดหลงได้ง่าย อีกทั้งอาจไปรบกวนผู้อื่นด้วย
ถ้าคุณผู้อ่านสนใจอยากไปช่วงฤดูหนาวในตอนนี้ แนะนำให้รีบจองตั๋วกับที่พักให้ไวเลยนะครับ เพราะเมื่อถึงช่วงใกล้ๆเดือนธันวาคมแล้ว ที่พักต่างๆจะหายาก เพราะคนจากทั่วสารทิศจะมุ่งมาพักแรมกันที่นั่น ซึ่งถ้าคุณผู้อ่านอยากได้ไกด์มืออาชีพช่วยจัดทริปส่วนตัวเพื่อพาไปดูงาน Comiket ละก็ ผมขอแนะนำบริษัท I Love Japan Tours ครับ ที่นี่มีทีมงานมืออาชีพพร้อมยินดีให้บริการทุกอย่าง ทั้งจองตั๋ว จองโรงแรม พร้อมทั้งมีรถส่วนตัวและไกด์ผู้เชี่ยวชาญคอยอำนวยความสะดวกและแนะนำสถานที่ รับรองว่าทุกท่านจะประทับใจในการบริการอย่างแน่นอน!
ที่มาภาพประกอบและแหล่งข้อมูลอ้างอิง
- http://overmental.com/content/22-biggest-geek-culture-conventions-in-the-world-170
- http://tokyogirlsupdate.com/10ways-heatup-cooldown-summer-20160799707.html
- http://survivingcomiket.blogspot.com/p/1-introduction-what-is-comiket.html
- https://en.wikipedia.org/wiki/Yoshihiro_Yonezawa
- http://www.ricedigital.co.uk/what-is-comiket/
- http://ready-up.net/2012/01/29/comiket-81/
- http://japonismo.com/blog/comiket-salon-del-manga
- http://www.wikiwand.com/fi/Comiket
- http://ourstarblazers.com/vault/268/
- https://ell1419.wordpress.com/2014/08/
- http://blog.fromjapan.co.jp/en/anime/a-guide-to-comiket-beyond-the-myths.html
- http://www.comiket.co.jp/info-a/C77/C77CMKSymposiumPresentationEnglish.pdf
- http://jpninfo.com/55579
ติดตามรับข่าวสารเกี่ยวกับญี่ปุ่น
YouTube: www.youtube.com/ilovejapanth/
Facebook: www.facebook.com/ILoveJapan.th/
Twitter: https://twitter.com/ILOVEJAPANTH
Instagram: www.instagram.com/ilovejapanth/
TikTok: https://www.tiktok.com/@ilovejapanth
ทดลองเรียนภาษาญี่ปุ่นออนไลน์ฟรี 3 วันได้ที่ www.ilovejapanschool.com